คำถามบางคำถามก็เกิดจากความกังวลจริงๆ เพราะร่างกายของคนเราไม่ใช่ว่ามันจะทำงานเที่ยงตรงเสียเท่าไหร่ แต่บางคำถามกลายเป็นคำถาม “มหาสนุก”
วันพฤหัสบดี 29 มกราคม 2558 เวลา 08:01 น.
พฤติกรรมอันหนึ่งของเหล่าบรรดาชาวเน็ต คือเมื่อเล่นเน็ตไปเรื่อยๆ ก็เริ่มผูกพันกับ “โลกเสมือน” นั้น นานเข้าๆ ก็เอาอารมณ์ “อิน” เข้าไปหนักๆ จนแยกไม่ค่อยออก บางคนอินขนาดที่ว่า โดนแขวะ-โดนกัด-โดนด่า ในเน็ตเข้าหน่อย ก็ “ของขึ้น” ยิ่งกว่าโดนคนรู้จักเห็นหน้าค่าตาในชีวิตจริงด่าเอา
เคยมีเรื่องเล่าว่า เด็กวัยรุ่นคนหนึ่งถึงขั้นร้องกรี๊ดๆๆๆ จนพ่อแม่ตกใจนึกว่าผีเข้า เหตุผลที่กรี๊ดก็ไม่ได้มีอะไรเลย แค่ว่า เจ้าหล่อนนั่งแชทอยู่กับผู้ชาย แล้วคุยกันอีท่าไหนไม่รู้ โดนผู้ชายด่าหยาบๆ มา ..ซึ่งสาเหตุที่น้องเขาอินลึกขนาดนั้น เป็นเพราะวันๆ ก็ใช้เวลาอยู่กับการแชท เป็นประชากรใน “สังคมก้มหน้า” อย่างสมบูรณ์แบบ
หลายคนเลือกที่จะไว้ใจ เล่าเรื่องอะไรต่อมิอะไร ขอคำปรึกษาอะไรต่อมิอะไร กระทั่งแต่งเรื่องมาถามคนในเน็ต นัยว่า คนใน “โลกเสมือน” นี่น่าไว้ใจนัก เพราะมันไม่รู้จักหน้าค่าตากัน ถามอะไรไป พอได้คำตอบ เรื่องก็หมดไปกับสายลม ไม่เหมือนนั่งคุยกับเพื่อน หรือคนรู้จักในโลกจริงๆ เพราะพวกนี้คุยอะไรมากเดี๋ยวเอาเราไปเมาท์...
ความไว้เนื้อเชื่อใจที่ว่านี่เอง ทำให้เราได้เห็นคำถามอะไรแปลกๆ ที่บางคนเขา “ไม่รู้จะไปถามใคร” ซึ่งบางเรื่องมันก็ไม่น่าว่าหรอก เพราะเขาทุกข์ร้อนกันมาจริงๆ แต่บางเรื่องก็กลายเป็นประเด็นให้ชาวเน็ตเอาไปค่อนแคะถึงระดับความรู้ ระดับสติปัญญาของคนตั้งกระทู้เสียอย่างนั้น
ชาวเน็ตถ้าไม่อยากจิตตก ลุกขึ้นมาร้องกรี๊ดๆ แบบเด็กวัยรุ่นที่กล่าวมาข้างต้น ก็ต้องมีภูมิต้านทานทางใจดีพอสมควรในการสื่อสารในโลกโซเชียลมีเดีย เพราะเวลาเราโพสต์อะไรไป นอกจากชาวเน็ตรายอื่นอาจไม่เห็นด้วยและสวนเอาเจ็บๆ แล้ว ชาวเน็ตบางคนยังวิพากษ์วิจารณ์คนตั้งกระทู้เสียอีก
ตัวอย่างคำถามที่มักจะมีการวิพากษ์วิจารณ์คนตั้งกระทู้กันบ่อย ๆ จนถึงหมั่นไส้ตอบให้มันออกทะเล...ซะอย่างนั้น คือคำถาม ว่า “จะท้องไหมคะ?/ครับ?” ซึ่งคนถามเป็นได้ทั้งคนที่ตั้งท้องเอง และคนที่สมรู้ร่วมคิดให้เกิดการตั้งท้องนั่นแหละ พอมีอะไรปริวิตกขึ้นมาที ก็พึ่งอินเทอร์เน็ต
ลองเปิดเวบพันทิปห้องชานเรือน หรือห้องลุมพินี จะเจอกระทู้ที่ตั้งถามคำถามนี้บ่อยๆ แทบจะเรียกได้ว่า วันละกระทู้ เนื้อหาก็ไม่มีอะไรมาก เจ้าของกระทู้จะอธิบายท่าปู้ยี้ปู้ยำทำมิดีมิร้ายกันที่เกิดขึ้น แล้วก็ถามว่า ท่าอย่างนี้จะท้องไหม หรือถ้าเป็นผู้หญิงถาม จะมีมิติที่ลึกขึ้นมาคือถามถึงเรื่องยาคุม หรือเรื่องประจำเดือน
คำถามบางคำถามก็เกิดจากความกังวลจริงๆ เพราะร่างกายของคนเราไม่ใช่ว่ามันจะทำงานเที่ยงตรงเสียเท่าไหร่ แต่บางคำถามกลายเป็นคำถาม “มหาสนุก” สำหรับคนตอบกระทู้เอาเสียอย่างนั้น เพราะเล่าพฤติกรรมแปลกๆ ท่าทางแปลกๆ บ้างก็เลยเถิดไปถึงขั้นว่า ใช้ “ตัวช่วย” จะทำให้ท้องหรือไม่
กระทู้พวกนี้มักจะแปะคำว่า 18+ หรือเหมาะสำหรับผู้อายุเกิน 18 ปี บางกิจกรรมที่นำมาตั้งกระทู้ ก็พิลึกพิลั่นพิสดารดี ซึ่งคงไม่นำมากล่าวถึง ณ ที่นี้ แต่เปิดดูสองห้องที่ว่าก็เจอง่ายๆ ดูกระทู้ที่ตั้ง...เห็นว่า บางสถานการณ์ที่บอกเล่ามาไม่รู้ว่า ยั่วให้ด่า หรือกังวลเอาจริงๆ กันแน่ ถ้ายั่วให้ด่าก็ดูเหมือนค่อนข้างสำเร็จ แต่ถ้ากังวลจริงๆ ก็ดูจะทำให้เหล่าชาวเน็ตขนหัวลุกเอาไม่ใช่น้อย
“ขนหัวลุก” ในลักษณะที่ว่า ความรู้ความเข้าใจในเรื่องเพศศึกษาของคนไทยนี่ มันอยู่ในระดับไหน โดยเฉพาะเยาวชน ที่บางกระทู้แม้จะปกปิดตัวเอง แต่ดูสไตล์การเขียนก็คิดว่า ไม่น่าจะอายุมาก
แล้วคนที่ไม่ใช่เยาวชนสงสัย กลัวว่าที่ทำไปจะทำให้ท้อง ดูๆ ไปก็ดูจะเยอะอยู่ ไม่รู้ว่า คำถามเหล่านี้ มันจะเป็นตัวชี้วัดอะไรได้หรือเปล่าที่กระทู้ประเภทนี้มีเยอะ หรือมันเป็นตัวบอก “สัมพันธภาพ” ระหว่างคนเรากับโซเชี่ยลมีเดียในปัจจุบัน ว่า เรารักและไว้ใจมันแค่ไหน ถึงถามมันไปทุกเรื่อง
แล้วทำไมเราไม่หาข้อมูลด้วยตัวเอง หรือแล้วทำไมเราไม่มั่นใจตัวเอง ต้องให้คนอื่นมา “คอนเฟิร์ม” ให้ในสิ่งที่เรากังวล จนบางครั้งกลายเป็นการถามที่ดูเป็นตัวตลก แล้วเราเชื่อมั่นได้อย่างไรว่า คนที่ตอบมีความรู้จริง ปรากฏการณ์เดียว อาจฟ้องอะไรได้หลายอย่างเกี่ยวกับสังคมยุคปัจจุบัน ไปจนถึง “วิธีหาความรู้” ของคนเดี๋ยวนี้
ยุคที่เราต้องเริ่มเรียนเรื่อง “การรู้เท่าทันสื่อ” อย่างเข้มข้นเสียที
.............................
คอลัมน์ : ที่เห็นและเป็นอยู่
โดย “บุหงาตันหยง
ที่มา